ผู้หญิงกำลังดูผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบนชั้นวางสินค้า พร้อมข้อความ '5 สัญลักษณ์สำคัญที่ควรรู้ บนฉลากเครื่องสำอาง'

5 สัญลักษณ์สำคัญที่ควรรู้ บนฉลากเครื่องสำอาง

ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสัญลักษณ์สำคัญที่ปรากฏในฉลากเครื่องสำอาง ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบางสัญลักษณ์จะเป็นแบบสัญลักษณ์ที่ต้องแสดงตามกฎหมาย และบางสัญลักษณ์จะเป็นสัญลักษณ์ที่เลือกใช้บ่อยๆ ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ดังนั้นแล้วเราไปดูกันว่าจะมีสัญลักษณ์อะไรบ้าง

ผู้หญิงกำลังอ่านฉลากบนกล่องเครื่องสำอางในร้าน พร้อมข้อความ 'สัญลักษณ์ที่ต้องแสดงบนฉลากเครื่องสำอางตามกฎหมาย'

สัญลักษณ์ที่ต้องแสดงบนฉลากเครื่องสำอางตามกฎหมาย

1.Period after opening (PAO)

สัญลักษณ์นี้จะปรากฏในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีอายุการใช้งานหลังเปิดใช้แล้วอย่างน้อย 30 เดือน โดยจะแสดงเป็นรูปโอ่งเปิดฝาอยู่ มีตัวเลขและตัวอักษร “M” ภายใน เช่น “6M”, “12M” เป็นต้น ซึ่งหมายถึงจำนวนเดือนที่ผลิตภัณฑ์นั้นยังคงมีคุณภาพและปลอดภัยในการใช้หลังจากเปิดใช้แล้ว

2.Best Before End Date (BBE)

สัญลักษณ์นี้จะปรากฏในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีอายุการใช้งานน้อยกว่า 30 เดือน โดยมีความหมายเช่นเดียวกับวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ ซึ่งหมายถึงวันที่ผลิตภัณฑ์ควรบริโภคหรือใช้ก่อน เพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสุด

3.Refer to Insert

สัญลักษณ์นี้จะเป็นรูปมือชี้ไปที่หน้าหนังสือ ซึ่งแสดงว่ามีข้อมูลเพิ่มเติมที่สำคัญที่ผู้บริโภคควรศึกษาร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ สัญลักษณ์นี้มักจะปรากฏบ่อยๆ ในผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กหรือต้องแสดงข้อมูลมาก เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ยาปลูกผม

4.Nominal Net Content

สัญลักษณ์ “e” ที่มักปรากฏบนฉลากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นการระบุปริมาณสินค้าสุทธิที่ผู้บริโภคจะได้รับจริง ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ถูกบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ การระบุนี้เป็นหนึ่งในความต้องการทางกฎหมายเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่แน่นอนและถูกต้อง

5.UVA/UVB

สัญลักษณ์นี้จะใช้ในผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด และแสดงประเภทของรังสีที่ผลิตภัณฑ์นั้นสามารถป้องกันได้ โดยจะมาพร้อมกับตัวอักษร SPF และตัวเลข ซึ่งแสดงปัจจัยการป้องกัน หมายความว่ามันจะป้องกันผู้ใช้จากรังสี UVB ได้ถึงระดับที่ระบุ และ PA แสดงการป้องกันจากรังสี UVA

ผู้หญิงกำลังดูโปสเตอร์ที่มีสัญลักษณ์และคำเตือนบนฉลากเครื่องสำอาง พร้อมข้อความ 'นอกจากนี้ยังมี สัญลักษณ์ประเภทอื่นๆ ที่ควรรู้บนฉลากเครื่องสำอาง'

นอกจากนี้ยังมี สัญลักษณ์ประเภทอื่นๆ ที่ควรรู้บนฉลากเครื่องสำอาง

สัญลักษณ์ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ

สัญลักษณ์นี้มักจะแสดงว่าเครื่องสำอางนั้นผลิตจากวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ เช่น พืชสมุนไพร หรือสารสกัดจากธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อผิวหนัง

สัญลักษณ์ Cruelty-Free

สัญลักษณ์นี้แสดงว่าผลิตภัณฑ์ไม่ได้ถูกทดลองกับสัตว์ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องสิทธิสัตว์ และต้องการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการทารุณกรรมสัตว์ในการผลิต โดยสัญลักษณ์นี้มักจะเป็นรูปกระต่ายหรือสัญลักษณ์เฉพาะที่รับรองว่าผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสัตว์

สัญลักษณ์ Vegan

สัญลักษณ์นี้บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์เลย รวมถึงไม่ใช้วัตถุดิบที่มาจากสัตว์ เช่น นม ไข่ หรือเจลาติน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่เป็นมังสวิรัติหรือวีแกน

สัญลักษณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน

สัญลักษณ์นี้แสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ISO หรือมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นผลิตตามมาตรฐานที่กำหนดและมีความปลอดภัย

สัญลักษณ์ที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์สามารถรีไซเคิลได้

สัญลักษณ์นี้บ่งบอกว่าบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้นสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ซึ่งช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดขยะ โดยมักจะแสดงเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือสัญลักษณ์รีไซเคิล

สัญลักษณ์ที่แสดงถึงการปราศจากสารเคมีอันตราย

สัญลักษณ์นี้จะระบุว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ เช่น พาราเบน สารฟอร์มาลดีไฮด์ หรือสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพได้

ผู้หญิงกำลังถือกล่องเครื่องสำอางพร้อมอ่านฉลากที่มีสัญลักษณ์ พร้อมข้อความ 'ความสำคัญของสัญลักษณ์บนฉลากเครื่องสำอาง'

ความสำคัญของสัญลักษณ์บนฉลากเครื่องสำอาง

สัญลักษณ์บนฉลากเครื่องสำอางไม่ใช่แค่เพียงรูปแบบหรือดีไซน์เท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารข้อมูลที่จำเป็นต่อผู้บริโภค ซึ่งมีความสำคัญดังนี้

  1. ช่วยบอกถึงความปลอดภัยที่มีต่อผู้ใช้: สัญลักษณ์บางอย่างจะระบุว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการทดสอบความปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้บนผิวหนัง เช่น สัญลักษณ์ที่แสดงว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  2. ระบุวันหมดอายุ: สัญลักษณ์ Best Before End Date (BBE) จะแสดงวันที่ผลิตภัณฑ์ควรใช้ก่อนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
  3. ข้อแนะนำในการใช้: สัญลักษณ์ Refer to Insert จะแสดงว่ามีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้ที่สำคัญซึ่งควรศึกษาก่อนใช้งาน
  4. ส่วนประกอบต่างๆ: เช่น สัญลักษณ์ที่แสดงว่าสินค้าไม่มีพาราเบน หรือปราศจากสารเคมีบางชนิด
  5. บ่งบอกถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: สัญลักษณ์บางอย่างจะแสดงว่าผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  6. การทดสอบกับสัตว์: สัญลักษณ์บางอย่างระบุว่าสินค้าไม่ได้ทดสอบกับสัตว์ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจประเด็นนี้
  7. เพื่อระบุที่มาและประเทศผู้ผลิต: สัญลักษณ์บางอย่างจะระบุแหล่งที่มาและประเทศผู้ผลิตของสินค้า
  8. บ่งบอกถึงการผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน: เช่น สัญลักษณ์ที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  9. ข้อควรระวัง: เช่น การแพ้สารบางประเภท หรือคำเตือนในการใช้งาน
  10. บ่งบอกว่าบรรจุภัณฑ์นั้นๆ สามารถนำไปรีไซเคิลได้: ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

สรุป

ดังนั้น สัญลักษณ์สำคัญที่ปรากฏบนฉลากเครื่องสำอาง ควรเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับผู้บริโภคในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงอายุการใช้งานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยบ่งบอกถึงการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการผลิตที่ไม่ทารุณสัตว์ ทำให้ผู้บริโภคมีข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการได้อย่างมั่นใจ